เอาจริงดิ? ปืนใหญ่เล็งส่ง “โอบาเมยอง” แลก “เดมเบเล”
ข่าวกีฬา จริงหรือไม่ ยุปป์ ไฮน์เคส เคยพาบาเยิร์น มิวนิค คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 2012/13 ได้อย่างยิ่งใหญ่ จากนั้นในฤดูกาลต่อมาเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ก้าวเข้ามากุมบังเหียนทีม “เสือใต้” และพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้ในทันที
แน่นอนว่าผลงานการคุมทีมของเฮดโค้ชทั้งสองคนนี้ยังคงตรึงใจสาวกบาเยิร์นมาจนถึงปัจจุบัน แต่สำหรับในฤดูกาลล่าสุด ฮันซี่ ฟลิค ที่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, อัลฟอนโซ่ เดวีส์ และพลพรรคเสือใต้คนอื่นๆ กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ของทีมบาเยิร์น มิวนิคให้สูงขึ้นยิ่งกว่าเดิม
หลังฟิลิปป์ ลาห์ม ชูถ้วยแชมป์ “บิ๊กเอียร์ส” หรือแชมป์ยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่สนามเวมบลีย์กรุงลอนดอนเมื่อปี 2013 บาเยิร์นก็กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในประเทศและทวีปยุโรป แม้เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ที่ก้าวเข้ามารับหน้าที่แทนไฮน์เคสจะไม่สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้เท่าเดิม แต่เขาก็ยังรักษาบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกาของบาเยิร์นไว้ได้ตั้งแต่จบแมตช์เดย์ที่ 28
ขณะที่บาเยิร์นในยุคของฮันซี่ ฟลิค ก็เพิ่งจะจบเกม “แดร์คลาสสิกเคอร์” ซึ่งเป็นแมตช์เดย์ที่ 28 ของฤดูกาลไปสดๆ ร้อนๆ โดยบุกไปเฉือนชนะทีม “เสือเหลือง” ได้ถึงถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์ค พร้อมทำแต้มทิ้งห่างรองจ่าฝูง 7 คะแนน โอกาสในการคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 8 ติดต่อกันนั้นสดใสสุดๆ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ฟลิคเข้ามารับตำแหน่งกุนซือแทนนิโก้ โควัช โดยที่บาเยิร์นหล่นไปอยู่ในอันดับที่ 4 ของตาราง และกระทั่งถึงตอนนี้ ฟลิคก็ได้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบุนเดสลีกาในเชิงสถิติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เขาพาทีมคว้าชัยชนะถึง 14 จาก 17 เกมบุนเดสลีกา คิดเป็นอัตราการชนะถึง 82% ทำคะแนนเฉลี่ย 2.5 แต้มต่อเกม ซึ่งแม้จะยังตามสถิติของเป๊ปที่ 2.6 คะแนนและของไฮน์เคสที่ 2.7 คะแนน แต่นั่นก็เพียงพอให้ฟลิคได้รับสัญญาจากสโมสรให้คุมทีมยาวไปถึงปี 2023
ขอบคุณข่าว : https://www.sanook.com/
สนใจสมัคร ติดต่อ : https://orangesodaclients.com/