ข่าวฟุตบอลทันโลก เริ่มต้นกันที่ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะจบฤดูกาลลงในวันอาทิตย์ที่ 22 ที่จะถึงนี้

ข่าวฟุตบอลทันโลก บทความกีฬาที่น่าสนใจ ข่าวกีฬา ข่าวทีมพรีเมียร์ลีกล่าสุด การลุ้นแชมป์ระหว่างสองทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง ที่มี 90 คะแนน กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 89 คะแนน จะต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายในวันอาทิตย์นี้ โดย แมนฯซิตี้ จะเปิดบ้านพบกับ แอสตัน วิลล่า ส่วน ลิเวอร์พูล จะเปิดแอนฟิลด์พบกับ วูล์ฟส์

ส่วนในการลุ้นพื้นที่ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่างทีมจากลอนดอนเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อันดับ 4 กับ อาร์เซน่อล อันดับ 5 ทีมปืนใหญ่ตามอยู่ 2 แต้ม โดยสเปอร์ส จะออกไปเยือนนอริช ส่วนอาร์เซน่อล เปิดบ้านพบกับ เอฟเวอร์ตัน

ส่วนการแย่งตำแหน่งดาวซัลโวระหว่าง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (22 ลูก) และ ซน เฮือง มิน (21 ลูก) ก็ยังคงต้องลุ้นจนจบฤดูกาล

ในโซนตกชั้นก็ยังต้องตัดสินในนัดสุดท้ายเช่นกัน ระหว่าง เบิร์นลี่ย์ อันดับ 17 ที่นำลีดส์ ยูไนเต็ดอยู่ 1 แต้ม เบิร์นลี่ย์จะเปิดบ้านพบกับ นิวคาสเซิ่ล ส่วนลีดส์ จะต้องออกไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ทีมไหนจะตกชั้นไปพร้อมกับ วัตฟอร์ด และนอริช พรีเมียร์ลีกอังกฤษ นัดสุดท้ายจะเตะพร้อมกันวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 22.00 น. สามารถติดตามผลการแข่งขันได้จาก เพจสยามกีฬา

ข่าวฟุตบอลทันโลก นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว การลุ้นแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ก็ต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายเช่นกัน ระหว่างสองคู่ปรับเมืองมิลาน

ข่าวฟุตบอลทันโลก ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ถือว่าเป็นกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ของ “ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ที่ตอนนี้นำเป็นจ่าฝูงของตาราง นำ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน คู่ปรับร่วมเมืองอยู่ 2 แต้ม เหลือการแข่งขันอีกเพียงนัดเดียวเท่านั้น

จ่าฝูงเอซี มิลาน จะต้องออกไปเยือนซาสซูโอโล่ ส่วนอินเตอร์ได้เล่นในบ้านพบกับ ซามพ์โดเรีย ทั้งสองทีมจะเตะพร้อมกันวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 23.00 น.

ส่วนอีก 3 ลีกใหญ่อย่าง ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้ทีมแชมป์กันเป็นที่เรียบร้อยกันหมดแล้ว

ในศึกลาลีกา สเปน เป็น เรอัล มาดริด มีคาริม เบนเซม่า ที่โชว์ฟอร์มร้อนแรง สามารถคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 35 ได้สำเร็จ แถมยังมีโอกาสคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกด้วยในฤดูกาลนี้ เพราะมีโปรแกรมนัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ต้องเตะกับลิเวอร์พูล ช่วงสิ้นเดือนนี้

บุนเดสลีกา เยอรมัน แชมป์ก็ตกเป็นของเจ้าเก่าเจ้าเดิม อย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค แต้มห่างกับดอร์ทมุนด์ถึง 8 แต้ม ส่วนลีกเอิง ฝรั่งเศสก็เหมือนกัน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก็คว้าแชมป์ลีกได้ง่ายดาย

เรอัล มาดริดจะคว้าแชมป์สมัยที่ 14 หรือ ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์สมัยที่ 7 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2021-2022

ข่าวเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล ข่าวฟุตบอลต่างชาติ เหลืออีกเพียง 9 วันเท่านั้น ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศจะลงเตะกันที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองส์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นการชิงกันระหว่างแชมป์ 13 สมัย “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน กับแชมป์ 6 สมัย “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ

ราชันชุดขาว เข้ารอบมาเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มที่ประกอบด้วย อินเตอร์ มิลาน, เชอร์ริฟ ทิราสโพล, ชัคตาร์ โดเน็ตส์ ส่วนหงส์แดงก็เข้ารอบมาเป็นอันดับ 1 เหมือนกันในกรุ๊ปออฟเดท มีทั้งแอตเลติโก้ มาดริด, ปอร์โต้ และเอซี มิลาน

ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาดริดผ่านทีมเต็งอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (3-2) ส่วนลิเวอร์พูล ผ่านทีมในกลุ่มเดียวกับเรอัล มาดริดอย่างอินเตอร์ มิลาน (2-1)

รอบก่อนรองชนะเลิศ ชุดขาวต้องโคจรมาเจองานหนักอย่าง เชลซี แต่ก็สามารถเอาชนะมาได้ (5-4) ส่วนหงส์แดง เจองานเบา เบนฟิก้า และเอาชนะไปได้ (6-4)

รอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา เรอัล มาดริดต้องเจอกับเต็งหนึ่ง ทีมเทพอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาก็สามารถพลิกชนะได้ในช่วงต่อเวลานัดที่ 2 (6-5) ส่วนลิเวอร์พูลเอาชนะบียาร์เรอัล (5-2)

ในแต่ละรอบของเรอัล มาดริด คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คาริม เบนเซม่า คือคนสำคัญที่พาทีมเข้าสู่รอบชิงได้สำเร็จ

ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เบนเซม่ายิงไปทั้งหมด 15 ประตู สามารถทำแฮตทริกทั้งในนัดที่เจอกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และนัดที่เจอกับเชลซี แถมยังยิงจุดโทษทำให้ทีมเอาชนะแมนฯซิตี้ไปได้ ในช่วงต่อเวลารอบรองชนะเลิศ ส่วนในลีกเจ้าตัวก็ยิงไปถึง 27 ประตู กับอีก 12 แอสซิสต์ พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกา สเปนได้สำเร็จ

ส่วนลิเวอร์พูล ก็มี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ที่เป็นดาวซัลโวในลีกตอนนี้ และนักเตะใหม่อย่าง หลุยส์ ดิอาซ พาทีมมีโอกาสคว้า 4 แชมป์ในหนึ่งฤดูกาล โดยทีมเครื่องจักรสีแดง สามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และอีเอฟแอล คัพ ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นัดชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเตะกันวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ (คืนวันเสาร์) เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

LOKI