ศึก คาราบาวคัพ รอบรองชนะเลิศ นัด 2 ณ สนามทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม คู่คืนวันพุธที่ 12 มกราคม 2565 หลังจากที่นัดแรกนั้น เชลซี เป็นฝ่ายชนะตุนไปก่อน 2-0

“ไก่เดือยทอง” ทอดแน่ม ฮอตสเปอร์ อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จำเป็นต้องชนะในผลต่างถึง 3 ลูก ถึงจะเข้าไปชิงชนะเลิศ

เริ่มเกมมานาทีที่ 11 เป็นทางฝั่งทีมเยือน เชลซี มีโอกาศทำประตูขึ้นนำ จาก โรเมลู ลูกากู ซิดจ่อๆ ไปติดเซพ ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ นายด่านอิตาเลี่ยนของเจ้าถิ่น

ทาง สเปอร์ส มาโดนกดอยู่ข้างเดียว และในอีกไม่กี่นาทีถัดมา เชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากลูกเตะมุมเปิดมาเข้าหัว อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โขกผ่านมือ กอลลินี่ ที่พยายามออกมาพยายามชกบอลแต่ไม่โดน ทีมเยือนขึ้นนำ 0-1 ในนาทีที่ 18

หลังจากนั้นฝั่งทีมเยือนก็ยังไม่เพลาเกมรุก และก็ต้องเป็นภาระให้นายทวารของเจ้าถิ่น ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ ต้องทำงานอย่างหนัก สเปอร์สมีโอกาสตีเสมอไม่กี่ครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที ก็กลายมาเป็นประเด็นให้พูดถึง เมื่อผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ สเปอร์ส ในจังหวะที่ รูดิเกอร์ ไปสไลด์สกัด ฮอยแบร์ก ขณะกำลังจะหลุดเข้าไปยิง จุดปะทะแรกนั้นเกิดที่นอกกรอบ ก่อนจะไถลไปล้มในเขตโทษ อย่างไรก็ตามหลังเช็ค VAR แล้ว ผู้ตัดสินเปลี่ยนให้เป็นแค่ฟรีคิกนอกเขตโทษแทน

จบ 45 นาทีแรก เป็นทีมเยือนบุกมาออกนำ 0-1

เริ่มครึ่งหลังมา นาทีที่ 56 แฮรี่ เคน ได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนไหลออกขวาให้ มูร่า จังหวะสุดท้ายแตะไม่โดนบอลก่อนถูก เกป้า ประตูเชลซีเกี่ยวล้มลง

ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษสเปอร์สไปก่อน จากนั้นไปเช็ค VAR ยืนยันว่า เกป้า เข้าสกัดโดนบอล แล้วผู้ตัดสินแจ้งยกเลิก ริบจุดโทษคืน

ถัดมาอีกไม่กี่นาที สเปอร์ส ยังบดขยี้หนักอย่างต่อเนื่อง แผงหลังเชลซี เสียบอลหน้าเขตโทษ เป็น ลูคัส มูร่า จ่ายให้เคนยิงผ่านมือ เกป้า เข้าไป
แต่อย่างไรก็ตาม VAR เช็คว่า เคน ยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าซะก่อน
ซึ่งเป็นหนที่ 3 แล้วในเกมนี้ที่ VAR ทำให้สเปอร์ส ไม่ได้ประตู

เจ้าบ้านพยายามยังไงก็ไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ จนจบ 90 นาที สเปอร์ส แพ้ เชลซี 0-1

เชลซีได้ผ่านเข้าไปรอบชิงชนะเลิศคาราบาวคัพ รอพบคู่ชนะ ระหว่าง อาร์เซน่อล กับ ลิเวอร์พูล ซึ่งจะมีโปรแกรมเตะนัดแรกในคืนนี้